ถังแชมเปญ ถังเก็บน้ำหอถังสูง

รับผลิตถังแชมเปญ (Champaign Tank): นวัตกรรมหอถังสูงเพื่อการจัดการน้ำด้วยแรงดันธรรมชาติ

"ในยุคที่การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีความสำคัญระดับสูงสุด 'ถังแชมเปญ' หรือหอถังสูงทรงแชมเปญไม่ได้เป็นเพียงแค่โครงสร้างเหล็กที่โดดเด่นสะดุดตาในพื้นที่เท่านั้น แต่คือโซลูชันอัจฉริยะที่ใช้หลักการทางวิศวกรรมร่วมกับพลังงานสะอาดจากแรงโน้มถ่วง (Gravity) เพื่อส่งมอบน้ำสะอาดไปยังทุกครัวเรือน

Segawater เข้าใจถึงหัวใจของการสำรองน้ำและการกระจายน้ำที่มีประสิทธิภาพ เราจึงออกแบบและติดตั้งหอถังสูงที่เน้นความทนทาน มาตรฐานความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการจ่ายน้ำสูงสุด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นชุมชนที่ห่างไกล โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือพื้นที่โครงการรัฐ จะมีน้ำใช้ด้วยแรงดันที่สม่ำเสมอและประหยัดต้นทุนพลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน"

ทำไมต้องเลือกใช้ถังเก็บน้ำทรงแชมเปญ?

  1. แรงดันน้ำคงที่: ใช้ความสูงในการสร้างแรงดัน ($Static Head$) ทำให้น้ำไหลแรงทุกจุดแม้ในเวลาที่ใช้งานพร้อมกัน

  2. ประหยัดพลังงาน: ลดการทำงานของปั๊มน้ำขนาดใหญ่ ช่วยยืดอายุการใช้งานปั๊ม

  3. สำรองน้ำได้ปริมาณมาก: มีขนาดความจุให้เลือกหลากหลายตามความต้องการใช้งาน

  4. ความทนทาน: โครงสร้างเหล็กเคลือบสีกันสนิมพิเศษ อายุการใช้งานยาวนานกว่า 20 ปี


ตารางขนาดและความสูงมาตรฐานที่นิยมใช้

เรามีขนาดถังแชมเปญมาตรฐานที่ผ่านการคำนวณจากวิศวกรโครงสร้าง ดังนี้:หรือต้องการขนาดความจุเท่าไหร่เราสามารถบริการตามความต้องการได้

ขนาดความจุ (ลบ.ม.) ความสูงมาตรฐาน (เมตร) เหมาะสำหรับ
10 M3
15 / 20 หอพัก, ไร่สวน, โรงงานขนาดเล็ก
20 M3 20 / 25 / 30 หมู่บ้านจัดสรร 100-200 หลังคาเรือน
30 M3
25 / 30 ชุมชนขนาดใหญ่, เทศบาล, นิคมอุตสาหกรรม
50 M3
30 ขึ้นไป โครงการรัฐ, ระบบประปาภูมิภาค

สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนติดตั้ง

จากการติดตั้งมาหลายร้อยแห่ง สิ่งที่เจ้าของโครงการมักมองข้ามคือ "การสำรวจชั้นดิน" ถังแชมเปญมีความสูงและน้ำหนักมหาศาลเมื่อเติมน้ำเต็มความจุ ดังนั้น:

  • งานฐานรากคือหัวใจ: หากดินนิ่มต้องใช้เข็มตอกหรือเข็มเจาะลึกถึงชั้นดินดาน เพื่อป้องกันถังเอียงในอนาคต

  • ระบบ Grounding: หอถังสูงคือเป้าหมายของฟ้าผ่า การติดตั้งระบบสายดินที่ได้มาตรฐานจึงสำคัญต่อความปลอดภัย

  • การเลือกทำเล: ควรวางในจุดที่สูงที่สุดของพื้นที่เพื่อให้กระจายน้ำได้ประสิทธิภาพสูงสุด


มั่นใจในบริการของเรา

  • ทีมวิศวกรควบคุมงาน: ออกแบบและคำนวณโครงสร้างตามหลักวิศวกรรมสถาน

  • วัสดุมาตรฐาน มอก.: เลือกใช้เหล็กคุณภาพสูง ความหนาเต็มสเปค

  • บริการครบวงจร: ตั้งแต่สำรวจหน้างาน ออกแบบฐานราก จนถึงติดตั้งเสร็จสมบูรณ์

  • รับประกันผลงาน: มีการรับประกันโครงสร้างและการรั่วซึม ชัดเจนในสัญญา

  • รายละเอียดแบบฐานรากถังแชมเปญ (Foundation Specifications)

    งานฐานรากของถังแชมเปญจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ตามสภาพดินในพื้นที่ติดตั้ง:

    1. แบบฐานรากแผ่ (Spread Footing)

    • เหมาะสำหรับ: พื้นที่ดินแข็ง เช่น ภาคเหนือ หรือพื้นที่ที่เป็นชั้นหิน

    • ลักษณะ: เป็นฐานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ที่แผ่กว้างออกไปเพื่อกระจายน้ำหนักลงสู่ดินโดยตรง

    • ข้อควรระวัง: ต้องมั่นใจว่าดินมีความสามารถในการรับน้ำหนัก ($Bearing Capacity$) ตามที่วิศวกรกำหนด

    2. แบบฐานรากเสาเข็ม (Pile Foundation) - นิยมที่สุด

    • เหมาะสำหรับ: พื้นที่ดินนิ่ม เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคกลาง หรือพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ

    • การเลือกใช้เสาเข็ม:

      • เสาเข็มตอก (Driven Pile): ประหยัด แข็งแรง แต่มีแรงสั่นสะเทือนสูง (ไม่เหมาะใกล้บ้านคน)

      • เสาเข็มเจาะ (Bored Pile): ราคาสูงกว่า แต่ลดผลกระทบต่ออาคารข้างเคียง


    สเปคมาตรฐานสำหรับฐานราก (อ้างอิงขนาด 20 คิว)

    รายการรายละเอียดมาตรฐาน
    ขนาดฐานราก (Footing Size)ประมาณ 4.00 x 4.00 เมตร ขึ้นไป
    ความหนาคอนกรีตไม่ต่ำกว่า 1.00 - 1.20 เมตร
    กำลังอัดคอนกรีต (f'c)ไม่น้อยกว่า 240 - 280(Cylinder)
    เหล็กเสริม (Reinforcement)เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) มาตรฐาน SD40
    จำนวน J-Bolt8 - 12 ตัว (ขึ้นอยู่กับขนาดเสาและการคำนวณแรงลม)

    ️ อุปกรณ์สำคัญ: J-Bolt และ Template (หัวใจของการติดตั้ง)

    ในบทความคุณควรอธิบายว่า "เราไม่ได้วางถังเฉยๆ แต่เราล็อคด้วยระบบ J-Bolt":

    1. J-Bolt (Anchor Bolt): ต้องเป็นเหล็กเกรดสูง (เช่น SS400) ขนาด 25 - 36 มม. ความยาว 1,000 - 1,500 มม. ปลายดัดงอเป็นรูปตัว J เพื่อฝังในเนื้อคอนกรีต

    2. Template (แบบเหล็กประคอง): เป็นแผ่นเหล็กวงกลมที่เจาะรูเท่ากับจำนวนน็อตของฐานถัง ใช้สำหรับล็อคหัว J-Bolt ทุกตัวให้ตั้งฉากและอยู่ในตำแหน่งที่แม่นยำ 100% ขณะเทปูน

    ⚠️ คำเตือนจากประสบการณ์: หากไม่ใช้ Template ล็อค J-Bolt ตอนเทปูน น็อตอาจจะเบี้ยวหรือเอียง ทำให้ตอนยกถังแชมเปญหนักหลายตันลงไปติดตั้ง "จะสวมน็อตไม่ได้" ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ช่างมือใหม่มักเจอ


    ขั้นตอนการทำฐานราก (สำหรับเขียนประกอบรูปภาพ)

    1. ขุดดินและลงเข็ม: ตามจำนวนและตำแหน่งที่วิศวกรกำหนด

    2. ตัดหัวเข็มและทำ Lean: เทคอนกรีตหยาบเพื่อปรับระดับพื้นผิว

    3. ผูกเหล็กเสริม: เสริมเหล็กตะแกรงทั้งบนและล่าง (Top & Bottom) เพื่อรับแรงดัด

    4. ติดตั้ง J-Bolt: วางชุด J-Bolt ที่ประกอบเข้ากับ Template ลงในตำแหน่งศูนย์กลางฐานราก ตรวจสอบระดับด้วยกล้องเซอร์เวย์

    5. เทคอนกรีต: เทต่อเนื่องห้ามมีรอยต่อ (Cold Joint) และใช้เครื่องสั่นคอนกรีตเพื่อป้องกันโพรงอากาศ

    6. การบ่ม (Curing): รดน้ำบ่มคอนกรีตเพื่อให้ได้ค่าความแข็งแรงตามมาตรฐานก่อนเริ่มยกถังขึ้นตั้ง

     "เรามีบริการออกแบบและเซ็นแบบฐานรากโดยวิศวกรโยธา (สย.)" เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะกังวลเรื่องถังล้มหรือฐานรากทรุด การที่เราเสนอตัวดูแลส่วนนี้จะช่วยปิดการขายได้ง่ายกว่าเจ้าที่ขายแต่ตัวถังอย่างเดียวครับ



 

 

 

 

 

 

 

Visitors: 156,678